โอกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ
[1171] กายสังขารเคยดับในภูมิใด, ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ
ปุคคโลกาสวาระ
กายสังขารมูล
กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-
[1172] กายสังขารเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, วจีสังขาร
ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตตในกามาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่กำลังเข้า
ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี กายสังขารเคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
แต่วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้า
ปฐมฌานซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้น กายสังขารเคยดับ
และวจีสังขารก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารจักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขารก็
เคยดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิ
ก็ดี วจีสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่กายสังขารไม่ใช่
เคยดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานซึ่งเกิด
อยู่ในกามาวจรภูมิ วจีสังขารจักดับ และกายสังขารก็เคยดับแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี
กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-
[1173] กายสังขารเคยดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตตสังขาร
ก็จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตในกามาวจรภูมิ กายสังขารเคยดับแก่
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น, บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี
บุคคลที่เกิดอยู่ในกามาวจรภูมิที่นอกจากนั้นก็ดี กายสังขารเคยดับ และ
จิตตสังขารก็จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.